แผ่นพื้นสำเร็จรูป กับการเลือกใช้งาน

แผ่นพื้นสำเร็จรูป กับการเลือกใช้งานแต่ละประเภท ปี 2026 – เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียและการใช้งานที่เหมาะสม

      แผ่นพื้นสำเร็จรูป   ในยุค 2026นี้  การก่อสร้างบ้าน อาคารพาณิชย์ หรือโรงงานอุตสาหกรรมยุคใหม่ “แผ่นพื้นสำเร็จรูป” ได้กลายเป็นหนึ่งในวัสดุหลักที่ผู้รับเหมานิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย เนื่องจากตอบโจทย์ทั้งเรื่องความรวดเร็วในการก่อสร้าง ประหยัดแรงงาน และมีคุณภาพมาตรฐานจากโรงงาน

แต่คำถามสำคัญคือ…
แผ่นพื้นสำเร็จรูป  แต่ละประเภทเหมาะกับงานแบบไหน? แตกต่างกันอย่างไร? มีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง?

บทความนี้ ทีริช กรุ๊ป จะพาเจาะลึก แผ่นพื้นสำเร็จรูปแต่ละประเภท อย่างละเอียด พร้อมเปรียบเทียบข้อดี ข้อเสีย รูปแบบการใช้งานที่เหมาะสม และแนะแนวการเลือกซื้อจากประสบการณ์ตรงของเราในฐานะผู้นำด้านวัสดุก่อสร้าง และตัวแทนจำหน่ายแผ่นพื้นอันดับต้น ๆ ของไทย

แผ่นพื้นสำเร็จรูป ในตลาดปัจจุบัน

แผ่นพื้นสำเร็จรูปในตลาดไทย สามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่:

1. แผ่นพื้นท้องเรียบ (Flat Slab)

2. แผ่นพื้นกลวง (Hollow Core Slab)

3. แผ่นพื้นตัน (Solid Slab)

แต่ละแบบมีโครงสร้าง รูปทรง วัสดุ และการใช้งานที่แตกต่างกัน ซึ่งเราจะพาไล่ดูทีละประเภทอย่างละเอียด

1. แผ่นพื้นสำเร็จรูป  ท้องเรียบ (Solid plank)

ลักษณะ:

• ทำจากคอนกรีตกำลังสูง  และลวด PC แรงดึงสูง

• มีลักษณะเป็นแผ่นเรียบหนาประมาณ 5 ซม.

• มักลวดแรงดึงสูง ตั้ง  4-9  เส้น แล้วแต่การใช้งาน

การใช้งาน:

• ใช้ร่วมกับระบบเทคอนกรีต topping หน้างาน (5–7 ซม.)

• นิยมในงานบ้านพักอาศัยทั่วไป

• เหมาะกับช่วงคานไม่เกิน 4 เมตร

ข้อดี:

• ราคาถูกที่สุดในกลุ่มแผ่นพื้นสำเร็จรูป

• หาซื้อได้ง่าย ส่งเร็ว

• สามารถผลิตได้ตามความยาวที่ต้องการ

ข้อเสีย:

• ต้องเท topping เพิ่ม ทำให้เสียเวลาและต้นทุนปูนหน้างาน

• รับน้ำหนักได้ต่ำกว่าแบบกลวง

• ไม่เหมาะกับงานอาคารสูงหรือที่ต้องรับน้ำหนักมาก

2. แผ่นพื้นกลวง (Hollow Core Slab)

ลักษณะ:

• มีรูกลวงตรงกลาง (เพื่อลดน้ำหนัก)

• มีความหนา 8–20 ซม. แล้วแต่ความยาว

• ใช้คอนกรีตอัดแรงในกระบวนการผลิต

การใช้งาน:

• ใช้ในงานที่ต้องการความแข็งแรงสูง และรับ  นน ได้ เยอะๆ  โกดัง อาคารสาธารณะ

• ไม่ต้องเท topping ก็สามารถปูกระเบื้อง/ปูพื้นต่อได้เลยในบางกรณี

• มีแผ่น ยาวกว่าพื้นท้องเรียบทั่วไป

ข้อดี:

• รับน้ำหนักได้สูงกว่าท้องเรียบ

• ไม่ต้องเท topping ลดเวลาหน้างาน

• ผิวเรียบ ไม่ต้องฉาบด้านล่าง

ข้อเสีย:

• ราคาสูงกว่าแผ่นท้องเรียบ 20–40%

• น้ำหนักต่อตารางเมตรสูง ต้องมีเครื่องมือช่วยติดตั้ง

• ต้องออกแบบล่วงหน้าอย่างแม่นยำ

3. แผ่นพื้นท้องลอน หรือ แผ่นพื้น  3 ขา  

ลักษณะ:

• ทำจากคอนกรีตเสริมเหล็ก ท้องเป็นลอน

• หนาประมาณ 15 ซม

• ไม่มีรูกลวงด้านใน

การใช้งาน:

• ใช้ในงานเฉพาะที่ ไม่ต้องการโก่งตัวมากนัก

• พื้นโกดัง โรงจอดรถ อาคารที่มีเครน

ข้อดี:

• แข็งแรงกว่า ท้องเรียบทั่วไป

• การโก่งตัวน้อย

ข้อเสีย:

• ท้องเป็นลอนๆ อาจไม่สวยงาม มากนัก

• มีลวดอัดแรงได้  5 เส้น

• มาซื้อยาก มีโรงงานผลิต  น้อย กว่าแผ่นพื้น ทั่วไป

ตารางเปรียบเทียบแผ่นพื้นสำเร็จรูป 3 ประเภท

การเลือกใช้ แผ่นพื้นสำเร็จรูป  ให้เหมาะสมกับงานก่อสร้าง

พิจารณาอะไรบ้าง?

1. น้ำหนักบรรทุกของพื้นที่

2. งบประมาณของโครงการ

3. เวลาที่ต้องการเสร็จ

4. อุปกรณ์ติดตั้งที่มี

5. พื้นที่หน้างานเข้าถึงยากหรือไม่

ความเชี่ยวชาญของทีริช กรุ๊ป กับแผ่นพื้นสำเร็จรูป

• มีทีมวิศวกรให้คำแนะนำเลือกแผ่นพื้นจากแบบก่อสร้างจริง

• ส่งสินค้าทั่วกรุงเทพและปริมณฑลแบบเต็มเที่ยวรถ

• เป็นพันธมิตรกับโรงงานชั้นนำ เช่น TPI, ไทยคอน, SCG

• มีระบบคำนวณโครงสร้างเบื้องต้นสำหรับผู้รับเหมา

• ช่วยประสานงาน onsite กับช่างหน้างานได้

ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยในการสั่งแผ่นพื้น

1. เลือกความยาวไม่พอดีกับระยะคาน

2. ไม่รู้ว่าต้องเท topping เพิ่มหรือไม่

3. สั่งจากโรงงานที่ไม่มี มอก. หรือใช้คอนกรีตเกรดต่ำ

4. สั่งไม่เต็มเที่ยวรถ ทำให้ต้นทุนต่อแผ่นสูงขึ้น

5. ไม่แจ้งเงื่อนไขหน้างานล่วงหน้า เช่น ต้องใช้เครนขนาดเล็ก

สรุป: เลือกแผ่นพื้นผิด = งานพังทั้งโครงการ

แผ่นพื้นไม่ใช่แค่ของวางบนคาน แต่มันคือ “โครงสร้างรับชีวิตของอาคาร”
ถ้าเลือกผิดตั้งแต่ต้น อาจทำให้โครงสร้างพังเร็ว ใช้ไม่ทน และต้องรื้อแก้ภายหลัง

หากคุณกำลังจะเริ่มก่อสร้างใหม่ หรือรีโนเวทอาคาร
อย่าสุ่มใช้แผ่นพื้น ขอแนะนำให้ปรึกษาทีมงานมืออาชีพจาก ทีริช กรุ๊ป
เรายินดีให้คำปรึกษาฟรี พร้อมเปรียบเทียบประเภทแผ่นพื้นตามแบบของคุณ
และจัดส่งจากโรงงานตรงถึงหน้างาน ด้วยคุณภาพที่เชื่อถือได้

📞 ติดต่อทีริช กรุ๊ป

• เว็บไซต์: https://trich.co.th

• LINE OA: @trich

• โทร: (ดูเบอร์ที่หน้าเว็บ)