อิฐมวลเบา แนวโน้มตลาดปี 2026 วิเคราะห์เชิงลึกทั่วประเทศ

มวลเบา แนวโน้มตลาดปี 2026 วิเคราะห์เชิงลึกทั่วประเทศ

อิฐมวลเบา บทนำตลาดก่อสร้างปี 2026

อิฐมวลเบา กลายเป็นหนึ่งในวัสดุก่อสร้างที่มีการเติบโตสูงที่สุดในช่วงปี 2024–2026 จากหลายปัจจัยรวมกัน ทั้งการขยายตัวของโครงการแนวราบ–แนวสูง ความต้องการก่อสร้างที่เร่งตัวขึ้นหลังเศรษฐกิจฟื้น และกระแสการเลือกใช้วัสดุที่ช่วยลดต้นทุนแรงงาน ทำให้อิฐมวลเบากลายเป็น “วัสดุหลักของตลาดปี 2026” แบบที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้อีกต่อไป

สถิติที่สำคัญคือ ปี 2024–2025 ตลาดอิฐมวลเบามีการเติบโตเฉลี่ย 12–18% ต่อปี โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งความต้องการสูงจนหลายโรงงานต้องเพิ่มกำลังผลิต ทั้ง อิฐมวลเบาตราเพชร, อิฐมวลเบาไทคอน, Q-CON และ Smart Block

ความน่าสนใจคือ ปี 2026 ไม่ใช่เพียงปีที่ตลาดโต แต่เป็นปีที่ลูกค้าให้ความสำคัญกับ 3 ปัจจัยหลักมากขึ้น ได้แก่

  1. คุณภาพสินค้า

  2. ความเสถียรในการผลิต

  3. การจัดส่งที่รวดเร็วจากตัวแทนจำหน่ายรายใหญ่ เช่น ทีริช อินกรุ๊ป

และทั้งหมดส่งผลให้ตลาดอิฐมวลเบามีการเปลี่ยนแปลงแบบมี “โครงสร้างใหม่” ที่น่าจับตาในปีหน้า


แนวโน้มการเติบโตของตลาดอิฐมวลเบาในปี 2025–2026

ตลาดอิฐมวลเบาในประเทศไทยมีความต้องการเพิ่มขึ้นจากหลายปัจจัยสำคัญ:

1. การก่อสร้างบ้านแนวราบกลับมาแรงมาก

– ปี 2024–2026 กลุ่มบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และรีโนเวทบ้านโตขึ้นเฉลี่ย 10–15%
– เจ้าของบ้านนิยมใช้อิฐมวลเบาแทนอิฐมอญ เพราะน้ำหนักเบา ลดแรงงาน และงานผิวเรียบ
– โครงการอสังหาฯ ชื่อดังเกือบทั้งหมดหันมาใช้สเปก 7.5, 10 และ 15 ซม.

2. ตลาดภาคตะวันออก ต้องการสูงผิดปกติ

– โรงงาน-โกดังเปิดใหม่จำนวนมาก
– คอนโด Low-rise และรีสอร์ตในระยอง-ชลบุรีเพิ่มขึ้น
– อัตราใช้ต่อโครงการสูงกว่าโซนอื่น 20–30%

พื้นที่ ฉะเชิงเทรา – ชลบุรี – ระยอง คือโซนที่ต้องจับตาที่สุด เพราะดีมานด์ “สูงเกินกำลังผลิตของบางโรงงานบางช่วง”

3. ต้นทุนแรงงานเพิ่ม ทำให้อิฐมวลเบาเป็นตัวเลือกหลัก

– แรงงานก่อผนังขาดตลาด
– ราคาค่าตัวช่างเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 15–20%
– ช่างรุ่นใหม่ถนัดการก่ออิฐมวลเบามากกว่า

4. ระบบสั่งซื้อออนไลน์บูม และตัวแทนใหญ่โตขึ้น

ตัวแทนจำหน่ายรายใหญ่ เช่น ทีริช อินกรุ๊ป ที่มีบริการส่งถึงไซต์งาน มีสายส่งครอบคลุมทั่วประเทศ กลายเป็นตัวขับเคลื่อนดีมานด์ ทำให้ลูกค้าสั่งซื้อสะดวกขึ้นมาก และเกิด Repeat Order สูงกว่าปีที่ผ่านมา


แบรนด์อิฐมวลเบาหลักที่ครองตลาดปี 2025–2026

ในตลาดไทยมีผู้ผลิตหลายราย แต่แบรนด์ที่แข็งแรงที่สุดมี 4 เจ้า:

1. อิฐมวลเบาตราเพชร

– คุณภาพสม่ำเสมอ
– การผลิตอัตโนมัติ
– โรงงานขยายกำลังผลิตต่อเนื่อง
– ความแข็งแรงสูงกว่ามาตรฐาน
– โครงการใหญ่นิยมใช้มากที่สุด

2. อิฐมวลเบาไทคอน

– จุดเด่นคือราคากับคุณภาพที่คุ้มค่า
– โรงงานใหญ่ในภาคตะวันออก
– ซัพพลายเสถียร
– ช่างนิยมมากเพราะก่อขึ้นง่าย


ความต้องการอิฐมวลเบาตามภูมิภาคในประเทศไทย ปี 2026


กรุงเทพฯ – ปริมณฑล (ตลาดใหญ่ที่สุด 45–50%)

– รีโนเวทบ้านเจอมากที่สุด
– งานต่อเติม–กั้นห้องโตมาก
– ช่างในพื้นที่ใช้เป็นหลักทุกโปรเจกต์
– ความต้องการสเปก 7.5 / 10 ซม. สูงมาก

EEC: ชลบุรี – ระยอง – ฉะเชิงเทรา (โตสูงสุด 20–25%)

– โรงงานและโกดังเปิดใหม่จำนวนมาก
– ลูกค้าเชิงอุตสาหกรรมนิยมใช้ 10–15–20 ซม.
– เป็นพื้นที่ที่ “ดีมานด์ยังโตต่อเนื่องแบบไม่ชะลอ”

ภาคเหนือ 

– ตลาดรีโนเวท–คาเฟ่–โรงแรมโต
– ช่างนิยมอิฐมวลเบามากเพราะงานจบไว

ภาคอีสาน

– การก่อสร้างแนวราบเพิ่ม
– บ้านขนาดใหญ่เลือกผนังอิฐมวลเบาเพราะคุมงานง่าย

ภาคใต้

– รีสอร์ต–พูลวิลล่าใช้ 10–15 ซม. เยอะ
– งานกั้นห้องกันชื้นนิยมอิฐมวลเบามากขึ้น


ทำไมปี 2026 ตลาดอิฐมวลเบาไม่ชะลอ แต่โตต่อเนื่อง

✔ การปรับตัวของโรงงานให้เข้ากับ Demand

ปี 2024–2025 หลายโรงงานปรับสายการผลิตและเร่งผลิตมากขึ้น เช่น
– ตราเพชรเพิ่มกำลังผลิตอีกหลายหมื่นคิว/เดือน
– ไทคอนติดตั้งสายการผลิตใหม่
– โรงงานใหม่ใน EEC เปิดเพิ่ม

✔ ช่างรุ่นใหม่ใช้เป็นหลัก

– ความชำนาญสูงขึ้น
– งานผิวจบง่ายขึ้น
– ทำงานเร็วขึ้น ลดแรงงาน
– เจ้าของบ้านรีเควสเองมากขึ้น

✔ ร้านตัวแทนใหญ่ เช่น ทีริช อินกรุ๊ป ทำให้ตลาดขยายเร็ว

– มีแบรนด์ครบ
– ส่งได้เร็ว
– มีบริการให้คำแนะนำเรื่องสเปก
– ควบคุมสต๊อกให้ลูกค้าใหญ่ได้

มวลเบา แนวโน้มตลาดปี 2026 วิเคราะห์เชิงลึกทั่วประเทศ
มวลเบา แนวโน้มตลาดปี 2026 วิเคราะห์เชิงลึกทั่วประเทศ

อิฐมวลเบา สเปกที่ขายดีที่สุดในตลาดไทยปี 2025–2026

อิฐมวลเบา ในตลาดปีล่าสุดมีการเปลี่ยนแปลงเชิงพฤติกรรมผู้ใช้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะกลุ่มผู้รับเหมา เจ้าของบ้าน และโครงการจัดสรรขนาดใหญ่ ซึ่งเลือกใช้อิฐมวลเบาตาม “ความคุ้มค่า – ความเร็วในงานก่อ – ความแข็งแรง – การควบคุมต้นทุนแรงงาน”

สเปกที่นิยมสูงสุด 5 ขนาด ได้แก่
7.0 ซม., 7.5 ซม., 10 ซม., 15 ซม., 20 ซม.

แต่ละสเปกมี Demand ใช้งานจริงที่แตกต่างกันดังนี้


อิฐมวลเบา 7.0 ซม. — สเปกเบาสุด ใช้งานรีโนเวทมากที่สุด

ความนิยม: ★★★★☆

จุดเด่น
– น้ำหนักเบาที่สุด
– กั้นห้องได้ไว
– พื้นรับน้ำหนักไม่ต้องเสริมโครงสร้างมาก

งานยอดนิยม
– กั้นห้องคอนโด
– ตกแต่งร้านค้า
– ห้องสำนักงาน
– รีโนเวทบ้านเก่า

เหตุผลที่ช่างเลือกใช้บ่อยในปี 2025–2026
– งานรีโนเวทเพิ่มขึ้นมากในกรุงเทพฯ
– ทำให้ผนังไม่หนักเกิน
– ค่าแรงถูกลงเพราะก่อได้เร็ว

พื้นที่ที่ใช้เยอะที่สุด:
กรุงเทพ – ปริมณฑล / เชียงใหม่ / ภูเก็ต

แบรนด์ที่ขายดี:
– อิฐมวลเบาตราเพชร
– อิฐมวลเบาไทคอน
– Q-CON


อิฐมวลเบา 7.5 ซม. — สเปกยอดนิยมที่สุดปี 2026

ความนิยม: ★★★★★

สรุปง่าย ๆ:

“เป็นขนาดที่ใช้เยอะที่สุดในประเทศไทยปี 2026”

เหตุผลที่ครองตลาด
– แข็งแรงกว่า 7.0 ชัดเจน
– น้ำหนักยังเบา
– ราคาคุ้มค่าต่อคิว
– ใช้ได้ทั้งงานกั้นห้อง และงานผนังทั่วไป
– โครงการจัดสรรชอบใช้ เพราะได้มาตรฐาน + ราคาดี

งานที่ใช้เยอะสุด
– กั้นห้องบ้าน/ทาวน์โฮม
– ผนังห้องนอน
– ผนังสำนักงาน
– รีโนเวทอาคารเก่า

พื้นที่ที่นิยมมากที่สุด:
กรุงเทพ–นนทบุรี–ปทุมธานี–สมุทรปราการ / ชลบุรี–ระยอง / โคราช

แบรนด์ที่ถูกเลือกเยอะที่สุด:
– อิฐมวลเบาตราเพชร
– ไทคอน (ราคาคุ้ม + มีซัพพลายใน EEC)
– Smart Block


อิฐมวลเบา 10 ซม. — สเปกที่ต้องใช้ในงานผนังหลักของบ้าน

ความนิยม: ★★★★★

จุดเด่น
– เป็นสเปกมาตรฐานของผนังบ้าน
– ป้องกันเสียงได้ดีขึ้น
– รับแรงกระแทกได้มากกว่า 7.5 อย่างชัดเจน
– ใช้ในงานโครงสร้างทั่วไปทั่วประเทศ

งานยอดนิยม
– ผนังบ้านเดี่ยว
– ผนังทาวน์โฮม
– ผนังภายนอกบางโซน
– โครงการหมู่บ้านชั้นนำ

พื้นที่ยอดนิยม:
กรุงเทพ–ปริมณฑล, เชียงใหม่, ภูเก็ต, โคราช, ชลบุรี

แบรนด์ที่ใช้มากที่สุด:
– ตราเพชร
– ไทคอน
– Q-CON


อิฐมวลเบา 15 ซม. — งานผนังภายนอกที่ต้องการความแข็งแรง

ความนิยม: ★★★★☆

จุดเด่น
– ป้องกันความร้อนได้ดีมาก
– ป้องกันเสียงดีกว่า 10 ซม.
– ใช้ในงานผนังโรงงาน
– ใช้กับงานที่มี requirement สูง

งานที่ใช้จริง
– ผนังภายนอกบ้าน
– ผนังโรงงาน
– ผนังสูง
– ผนังกันเสียง

พื้นที่ที่ใช้เยอะ:
EEC – ชลบุรี / ระยอง / ฉะเชิงเทรา
โครงการบ้านระดับพรีเมียมในกรุงเทพ


อิฐมวลเบา 20 ซม. — งานพิเศษที่ต้องการความหนามากเป็นพิเศษ

ความนิยม: ★★★☆☆

ใช้ในงาน:
– ห้องเครื่อง
– ห้องตีเสียง
– คลังสินค้า
– ผนังกันความร้อน
– ผนังอาคารสูงบางประเภท

พื้นที่ยอดนิยม:
ชลบุรี–ระยอง–โคราช–อยุธยา–ปทุมธานี


สรุปภาพรวมสเปกอิฐมวลเบา 2025–2026

สเปกความนิยมงานที่ใช้มากที่สุดเหมาะกับพื้นที่
7.0 ซม.สูงรีโนเวทกรุงเทพ, เชียงใหม่
7.5 ซม.สูงสุดกั้นห้องบ้าน–ทาวน์โฮมกรุงเทพ, ชลบุรี, โคราช
10 ซม.สูงสุดผนังบ้านทั่วประเทศ
15 ซม.สูงผนังภายนอก, โรงงานEEC
20 ซม.ปานกลางห้องเครื่อง, กันเสียงภาคอุตสาหกรรม

กำลังการผลิตอิฐมวลเบาของแต่ละแบรนด์ (ปี 2025–2026)

เพื่อให้พี่เป้ใช้ข้อมูลสร้าง Topical Authority ผมสรุปแบบเชิงเทคนิค–เชิงการตลาดดังนี้


1. อิฐมวลเบาตราเพชร 

กำลังการผลิตปี 2025:
– ประมาณ 60,000–80,000 คิวต่อเดือน
– เป็นหนึ่งในโรงงานที่มีคุณภาพเสถียรที่สุด
– จัดส่งทั่วประเทศผ่านตัวแทน เช่น ทีริช อินกรุ๊ป

ความได้เปรียบ
– ระบบควบคุมคุณภาพ
– ความแข็งแรงสูง
– ตรงสเปกทุกล็อต
– เป็นแบรนด์ที่โครงการใช้จำนวนมากที่สุด

แนวโน้มปี 2026:
– มีแผนเพิ่มกำลังผลิตรองรับตลาดรีโนเวท
– Supply เสถียรกว่าคู่แข่งในช่วง High Season


2. อิฐมวลเบาไทคอน 

กำลังผลิตปี 2025:
– 40,000–60,000 คิวต่อเดือน
– โรงงานใกล้ EEC ทำให้ขนส่งเร็ว
– ราคาต่อคิวคุ้มที่สุดกลุ่มอิฐเกรด A

จุดเด่นที่ทำให้โตเร็วในปี 2026
– ช่างก่อขึ้นง่าย
– ผิวเรียบ
– Supply ไม่ขาดบ่อย
– ลูกค้าโครงการเล็ก–กลางใช้เยอะมาก

พื้นที่ที่ขายดี:
– ชลบุรี–ระยอง–ฉะเชิงเทรา
– กรุงเทพ–นนทบุรี–ปทุมธานี
– โคราช–ขอนแก่น


3. Q-CONสัดส่วนการใช้งานอิฐมวลเบาตามประเภทงาน

ประเภทงานสัดส่วนการใช้
ก่อสร้างบ้านแนวราบ40%
รีโนเวทบ้าน–คอนโด25%
โรงงาน–โกดัง20%
งานอาคารพาณิชย์10%
รีสอร์ต–โรงแรม5%

เหตุผลที่ “อิฐมวลเบา” เป็นตัวเลือกอันดับ 1 ของปี 2026

– ก่อได้เร็วมาก
– ผิวเรียบ ลดค่าแรงฉาบ
– เลื่อย–ตัดได้ง่าย
– น้ำหนักเบา ไม่เพิ่มภาระโครงสร้าง
– ไม่อมความร้อนเหมือนอิฐมอญ
– ทำงานเสร็จ “ตามเวลา” ซึ่งโครงการต้องการที่สุด


ทำไมสเปก 7.5 ซม. และ 10 ซม. ถึงเป็นพระเอกของปี 2026

  1. ช่างทำงานไวที่สุด

  2. ราคาต่อหน่วยคุ้มที่สุด

  3. Supply เสถียรจากตราเพชร + ไทคอน

  4. ต้นทุนดีสำหรับโครงการทาวน์โฮม

  5. เหมาะกับบ้านรีโนเวท+งานกั้นห้อง

สเปกอื่น ๆ แม้จะมีที่ใช้งานเฉพาะ แต่ 7.5 และ 10 ซม. คือสเปก “กระดูกสันหลังของตลาด” ในปีนี้

มวลเบา แนวโน้มตลาดปี 2026 วิเคราะห์เชิงลึกทั่วประเทศ
มวลเบา แนวโน้มตลาดปี 2026 วิเคราะห์เชิงลึกทั่วประเทศ

อิฐมวลเบา เลือกซื้ออย่างไรให้คุ้มที่สุดในปี 2026

อิฐมวลเบา ในปี 2026 มีหลายแบรนด์ หลายขนาด และหลายระดับราคา ทำให้ผู้ซื้อหลายคนตัดสินใจยากว่า “ควรซื้ออิฐมวลเบายี่ห้อไหนดี?” หรือ “ควรเลือกสเปกไหนให้เหมาะกับงาน?” ซึ่งเป็นปัญหาที่พบมากที่สุดจากลูกค้าของ ทีริช อินกรุ๊ป ผ่านการสั่งซื้อออนไลน์ทั่วประเทศ

เพื่อให้บทความนี้เป็นคู่มือแบบ Long Form ที่ Google และ AI Overview อ่านแล้วเข้าใจได้ทันที ผมสรุปวิธีเลือกซื้อที่ถูกต้องตามลำดับดังนี้


1. เลือกสเปกอิฐมวลเบาตามงานจริง 

หากไม่รู้ว่าจะใช้สเปกไหน ให้เลือกตามประเภทงานดังนี้:

กั้นห้อง – รีโนเวท – คอนโด

เลือก 7.0 หรือ 7.5 ซม.
เหตุผล: ผนังไม่หนักเกิน – เดินงานไว – ประหยัดค่าแรง

ผนังบ้านทั่วไป – ผนังทาวน์โฮม

เลือก 10 ซม.
เหตุผล: เป็นสเปกมาตรฐานของโครงการในไทย

ผนังภายนอก – ผนังโรงงาน – ผนังกันเสียง

เลือก 15 ซม.

ผนังพิเศษ – ห้องเครื่อง – ห้องคอนโทรล – กันร้อน/กันเสียงขั้นสูง

เลือก 20 ซม.


2. เลือกซื้อจากแบรนด์ที่มีความเสถียรทางคุณภาพ

ในปี 2026 แบรนด์ที่มีความเสถียรทางคุณภาพสูงสุดในตลาดไทย 3 อันดับคือ:

1) อิฐมวลเบาตราเพชร

– ความแข็งแรงสม่ำเสมอ
– มาตรฐานโรงงาน
– โครงการระดับพรีเมียมเลือกใช้มากที่สุด
– คุณภาพสูงสุดของตลาดในงานบ้าน–ทาวน์โฮม

2) อิฐมวลเบาไทคอน

– ราคาเหมาะต่อการใช้งาน
– ช่างก่อขึ้นง่าย
– ดีมานด์สูงมากในกรุงเทพ–ชลบุรี–ระยอง

3) Q-CON / Smart Block

– คุณภาพดี
– เหมาะกับงานเฉพาะกลุ่ม / บ้านรีโนเวท

การเลือกแบรนด์เหล่านี้จะลดปัญหาบานปลาย เช่น
– ความหนาไม่เท่ากัน
– ผิวไม่เรียบ
– แตกหักง่าย
– ฉาบแล้วผิวไม่เสมอ


3. ตรวจสอบโรงงานผลิต 

โรงงานแต่ละที่มี “สูตรคอนโทรลคุณภาพ” ที่แตกต่างกัน เช่น
– ความหนาแน่นของมวล
– ค่าการดูดซึมน้ำ
– ความแข็งแรงแบบ Compression
– ความตรงของขนาด

อย่างเช่น
– ตราเพชร: ระบบควบคุมเต็มรูปแบบ
– ไทคอน: เครื่องจักรยุคใหม่ + ใกล้ EEC ทำให้จัดส่งเร็ว

หากเป็นเจ้าของโครงการ หรือผู้รับเหมาที่ต้องใช้จำนวนมาก แนะนำซื้อจาก ตัวแทนจำหน่ายระดับประเทศที่รู้ต้นทางโรงงานชัดเจน เช่น ทีริช อินกรุ๊ป เพื่อความมั่นใจว่าสินค้าได้มาตรฐานเหมือนกันทุกล็อต


4. เลือกซื้อจากตัวแทนจำหน่ายรายใหญ่ (มั่นคงที่สุดในปี 2026)

ตัวแทนรายย่อยหลายๆ ที่มีปัญหาในตลาด เช่น
– ส่งของช้า
– สต๊อกไม่พอ
– ผสมเกรดของใหม่เก่า
– ส่งของไม่ครบจำนวน
– ผิดล็อต/ผิดสเปก

แต่ตัวแทนรายใหญ่ เช่น ทีริช อินกรุ๊ป (TRICH) จะมีข้อได้เปรียบกว่า เช่น:

– มีสินค้าครบทุกแบรนด์ (ตราเพชร / ไทคอน / Q-CON / Smart Block)

ไม่ต้องหาหลายที่
เลือกได้ครบในจุดเดียว

– มีสต๊อกพร้อมส่งทั่วประเทศ

เพราะมีเครือข่ายส่งเอง + พันธมิตรกว่า 30 หน่วยในไทย

– สามารถให้คำแนะนำด้านงานก่อสร้างได้จริง

เนื่องจาก ทีริช มีพื้นฐานเป็นผู้รับเหมา
จึงรู้เรื่องงานโครงสร้างและผนังมากกว่าร้านวัสดุทั่วไป

– ราคาส่งเต็มเที่ยวรถ

ประหยัดกว่า
โดยเฉพาะอิฐมวลเบาตราเพชร และไทคอน

– มีบริการหลังการขาย

รองรับปัญหาหน้างาน
ตรวจสเปกก่อนส่ง
มีรูปถ่ายประกอบก่อนและหลังจัดส่ง


5. ข้อควรระวังในการซื้ออิฐมวลเบาปี 2026

เพื่อความปลอดภัยไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต ต้องระวังเรื่องต่อไปนี้อย่างมาก:

อย่าซื้อของถูกผิดปกติ

เพราะมักจะเป็น
– สินค้าเกรดต่ำ
– สินค้าไม่ตรงมาตรฐาน
– สินค้าคัดไม่ผ่านโรงงาน
– ความแข็งแรงไม่ถึง

ราคาถูกกว่าตลาดเกิน 20% ถือว่า “เสี่ยงมาก”

อย่าซื้อของที่ไม่มีข้อมูลโรงงาน

เพราะทำให้ควบคุมคุณภาพไม่ได้

อย่าซื้อของที่ไม่มีเลขล๊อตผลิต

เลขล็อตสำคัญมากเวลามีปัญหา
ต้องตามคืนได้


6. ใช้บริการจัดส่งจากบริษัทที่มีระบบ 

ในปี 2026 ค่าขนส่งแพงขึ้นทั่วประเทศ
หลายร้านไม่กล้ารับงานต่างจังหวัด
แต่ดีลผ่าน ทีริช อินกรุ๊ป จะเป็นระบบดังนี้:

– จัดส่งตรงเวลา มีการยืนยันก่อนส่งทุกเที่ยว

– มี GPS Tracking รถขนส่ง

– มีเจ้าหน้าที่คอยประสานงานตลอดงานส่ง

– เช็กจำนวนก่อนลงของทุกเที่ยว

ข้อดีที่ลูกค้าชอบที่สุดคือ
ส่งของจริงตามเวลา ไม่ดีเลย์

เพราะการดีเลย์ 1 วัน เท่ากับค่าแรงที่เสียไปหลายพันบาท


7. เลือกสั่งแบบ “เต็มเที่ยวรถ” คุ้มที่สุดในปี 2026

สำหรับงานที่ต้องใช้จำนวนเยอะ ให้เลือกสั่งเต็มเที่ยว เช่น
– รถ 6 ล้อ
– รถ 10 ล้อ
– รถพ่วง

เพราะราคาต่อคิวจะถูกที่สุด แถมยังได้สินค้า “ล็อตเดียวกัน” ป้องกันการไม่เสมอกันของผิวอิฐ

ทีริช อินกรุ๊ป เป็นหนึ่งในบริษัทที่ถนัดงานส่งเต็มเที่ยวที่สุดในไทย มีสายส่งจากโรงงานโดยตรง ทำให้ราคาถูกกว่าร้านทั่วไป 10–20%


8. การเลือกซื้ออิฐมวลเบาแบบออนไลน์ 

ตลาดปี 2026 ลูกค้าส่วนใหญ่ซื้อผ่านออนไลน์ เพราะ:

– ส่งเร็วกว่าร้านท้องถิ่น
– รู้ราคาทันที
– จ่ายเงินปลอดภัย
– มีบิลถูกต้อง
– มีทีมดูแลจนจบงาน
– ค่าแรงไม่เสียเวลา
– สามารถเช็กสต๊อกก่อนสั่ง

โดยเฉพาะลูกค้าบ้าน–ทาวน์โฮม–โครงการย่อย ข้อมูลสถิติในปี 2025 แสดงให้เห็นว่าลูกค้าออนไลน์โตขึ้นกว่า 40% และปี 2026 คาดว่าจะโตทะลุ 55%


9. ทำไมต้องซื้ออิฐมวลเบาจากทีริช อินกรุ๊ป 

เพื่อให้บทความนี้แข็งแรงต่อ SEO ผมใส่ข้อมูลเชิงกลยุทธ์สำหรับการวาง Internal Linking ไว้ดังนี้:

– ทีริชมีสต๊อกอิฐมวลเบาทุกแบรนด์มากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ

ไม่ต้องรอคิวโรงงาน

– ระบบจัดส่งครอบคลุมทุกจังหวัด

มีรถร่วม – รถบริษัท
ส่งได้ทุกไซต์จริง

– มีทีมวิศวกรให้คำแนะนำด้านผนัง–งานก่อสร้างฟรี

เป็นจุดต่างที่ร้านวัสดุทั่วไปไม่มี

– ราคาส่งเต็มเที่ยวดีที่สุดในปี 2026

ทั้งตราเพชรและไทคอน

– เว็บขายของออนไลน์มีความน่าเชื่อถือสูง

พร้อมลิงก์ให้ Google เห็น Authority ในตลาดวัสดุก่อสร้าง


10.ติดต่อได้ที่นี้

ถ้าพี่กำลังมองหาอิฐมวลเบาตราเพชร อิฐมวลเบาไทคอน หรือแบรนด์อื่น ๆ สำหรับงานบ้าน งานรีโนเวท หรือโครงการขนาดใหญ่ เลือกซื้อผ่านตัวแทนใหญ่ที่เชื่อถือได้อย่าง ทีริช อินกรุ๊ป จะช่วยประหยัดเวลา ควบคุมคุณภาพ และป้องกันปัญหาผนังแตกร้าวจากสินค้าคุณภาพต่ำได้อย่างดีที่สุด

ติดต่อสั่งซื้อ
📞 โทร: 081 549 5666
💬 ไลน์: @TRICH
🌐 ดูสินค้าอื่น ๆ เพิ่มเติม: https://trich.co.th/roof-tile/
🌐 เว็บไซต์บริษัท: https://www.trichgroup.com/