1. ทำไม ค่าก่อสร้างบ้าน ถึงกลายเป็นคำถามใหญ่ในปี 2026
ในปี 2026 ที่เศรษฐกิจโลกยังคงผันผวน และต้นทุนวัสดุก่อสร้างขยับขึ้นอย่างต่อเนื่อง “ค่าก่อสร้างบ้าน” จึงกลายเป็นคำถามใหญ่ของเจ้าของบ้าน วิศวกร สถาปนิก และผู้รับเหมา ไม่ว่าจะเป็นการสร้างบ้านใหม่ ต่อเติม หรือรีโนเวท เจ้าของบ้านจำเป็นต้องเข้าใจวิธีการคำนวณค่าก่อสร้าง เพื่อควบคุมงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ
บทความนี้จะพาทุกท่านไปเจาะลึกวิธีคิดราคาค่าก่อสร้างบ้านในปี 2026 ครบทุกมิติ ตั้งแต่วิธีคิดราคาแบบเหมารวม คิดตาม BOQ คิดตามตารางเมตร ตลอดจนต้นทุน + factor F พร้อมทั้งวิเคราะห์แนวโน้มราคาค่าก่อสร้างในปี 2569 และปัจจัยทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้คุณวางแผนสร้างบ้านหรือต่อเติมได้อย่างมั่นใจ และตรงงบที่สุด
2. ค่าก่อสร้างบ้านคืออะไร? รวมค่าอะไรบ้าง?
“ค่าก่อสร้างบ้าน” คือมูลค่าทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างบ้านตั้งแต่เริ่มต้นจนแล้วเสร็จ ซึ่งประกอบด้วยหลายองค์ประกอบที่สำคัญ ได้แก่:
- ค่าวัสดุ (Material Cost): เช่น ปูนซีเมนต์ เหล็ก อิฐ ท่อ PVC ไม้ สี ทราย และวัสดุตกแต่ง
- ค่าแรง (Labor Cost): ค่าจ้างช่างในงานโครงสร้าง สถาปัตย์ ระบบไฟฟ้า ประปา งานหลังคา งานฝ้า ฯลฯ
- ค่าบริหารจัดการ (Management): ค่าเผื่อเวลา การประสานงาน การควบคุมโครงการ
- ค่าควบคุมงาน (Supervision): เช่น วิศวกรควบคุมงาน, foreman, site engineer
- กำไรผู้รับเหมา: ปกติอยู่ที่ 10-20% แล้วแต่ความซับซ้อนของงาน
โดยทั้งหมดนี้จะอยู่ภายใต้เงื่อนไข เช่น:
- ขนาดบ้านและจำนวนชั้น
- ลักษณะที่ดิน (ดินอ่อน, ที่ถมใหม่, ดินดิบ)
- ผังเมือง (พื้นที่ที่สามารถก่อสร้างได้หรือไม่, ความสูงที่อนุญาต)
- รูปแบบการจ้าง (ผู้รับเหมารายย่อย vs บริษัท)
การรู้รายละเอียดเหล่านี้จะช่วยให้เจ้าของบ้านสามารถประเมินเบื้องต้นได้ว่า ค่าก่อสร้างบ้านในปี 2026 จะอยู่ที่ช่วงเท่าไร และควรเตรียมงบประมาณเพิ่มเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการปรับราคาหรือความผิดพลาดในระหว่างการก่อสร้าง


3. วิธีคิด ค่าก่อสร้างบ้าน แบบต่าง ๆ
ในวงการก่อสร้าง มีการคิดค่าก่อสร้างบ้านหลายแบบ ขึ้นอยู่กับรูปแบบโครงการ งบประมาณ และระดับความซับซ้อนของแบบก่อสร้าง ซึ่งแต่ละแบบมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันดังตารางด้านล่าง:
วิธีคิด | รายละเอียด | เหมาะกับใคร | ข้อดี | ข้อเสีย |
---|---|---|---|---|
เหมารวม | ผู้รับเหมากำหนดราคาทั้งหมดจบในสัญญาเดียว | เจ้าของบ้านทั่วไปที่ต้องการความสะดวก | ควบคุมงบได้ง่าย | เสี่ยงสเปกต่ำกว่าความคาดหวัง |
ค่าแรงอย่างเดียว | เจ้าของบ้านซื้อวัสดุเอง จ้างช่างแยก | คนที่มีเวลาและความรู้เรื่องวัสดุ | คุมคุณภาพวัสดุได้ | เสี่ยงเรื่องงานไม่จบ ช่างทิ้งงาน |
คิดตาม BOQ | ถอดแบบจากรายการประมาณการวัสดุอย่างละเอียด | บ้านขนาดใหญ่ มีวิศวกรดูแล | ชัดเจน โปร่งใส | ต้องใช้ความรู้หรือมีทีมช่วยวิเคราะห์ |
คิดตาม ตร.ม. | ใช้ราคามาตรฐาน เช่น 14,000–18,000 บาท/ตร.ม. | ใช้เปรียบเทียบงบเบื้องต้น | เข้าใจง่าย คำนวณไว | ไม่สะท้อนงานพิเศษหรือวัสดุเฉพาะ |
การเลือกวิธีคิดค่าก่อสร้างควรพิจารณาให้เหมาะกับรูปแบบบ้าน งบประมาณ และระดับความซับซ้อนของโครงการ หากบ้านมีฟังก์ชันเฉพาะทาง เช่น ห้องใต้ดิน โครงสร้างพิเศษ หรือใช้วัสดุนำเข้า แนะนำให้ใช้แบบ BOQ เพื่อป้องกันความคลาดเคลื่อนจากการประเมินราคาผิวเผิน
4. ปัจจัยแฝงที่ทำให้ราคา ค่าก่อสร้างบ้าน “บานปลาย”
แม้ว่าค่าก่อสร้างบ้านจะมีการประเมินล่วงหน้าอย่างชัดเจน แต่ในความเป็นจริงก็ยังมีหลายปัจจัยที่ทำให้ต้นทุนบานปลาย ได้แก่:
- ราคาวัสดุปรับตัวสูงขึ้น: เหล็ก, ปูน, กระเบื้อง, ไม้ และวัสดุนำเข้ามีราคาขึ้นลงรายไตรมาส
- ค่าขนส่งและโลจิสติกส์: ค่าขนของ ค่าน้ำมัน และค่าขนส่งจากโรงงานสู่หน้างานเป็นต้นทุนแฝงที่มักถูกมองข้าม
- แบบบ้านไม่ชัดเจน: แบบที่ไม่ละเอียด ทำให้ระหว่างก่อสร้างต้องปรับเปลี่ยน ทำให้งานล่าช้าและเพิ่มค่าแรง
- ไม่มีวิศวกรหรือ foreman คุมงาน: ส่งผลให้ต้องรื้อ ซ่อม หรือแก้งานหลายรอบ สูญเสียทั้งเงินและเวลา
- เจ้าของเปลี่ยนใจระหว่างทาง: เช่น เปลี่ยนวัสดุปูพื้นจากกระเบื้องธรรมดาเป็นหินแกรนิต หรือเพิ่มฟังก์ชันใหม่กลางคัน
การวางแผนอย่างรอบคอบ และทำแบบก่อสร้างให้ครบถ้วนตั้งแต่ต้น จะช่วยลดความเสี่ยงเหล่านี้ได้มาก
5. แนวคิด Factor F คืออะไร?
ในสายงานวิศวกรรมและงานผู้รับเหมาขนาดกลาง–ใหญ่ จะนิยมใช้แนวคิดการคำนวณค่าก่อสร้างจาก “ต้นทุนจริง” บวก “Factor F” หรือค่าความเสี่ยงและกำไรของผู้รับเหมา โดยมีสูตรง่าย ๆ ดังนี้:
ราคาค่าก่อสร้าง = ต้นทุนสุทธิ x Factor F
- ต้นทุนสุทธิ: รวมค่าวัสดุ ค่าแรง ค่าคุมงาน ฯลฯ จาก BOQ
- Factor F: ค่าตัวคูณ เช่น 1.25 – 1.35 แล้วแต่ความเสี่ยง โซนงาน ระยะเวลางาน และประเภทของบ้าน
ตัวอย่าง: ถ้า BOQ สรุปต้นทุนก่อสร้าง = 1,000,000 บาท และใช้ F = 1.30
ค่าก่อสร้างบ้านรวม = 1,000,000 x 1.30 = 1,300,000 บาท
ข้อดีของการใช้ Factor F คือโปร่งใส ควบคุมต้นทุนได้ และเหมาะกับโครงการที่ต้องการคุณภาพสูง หรืองานที่ต้องการให้มีการตรวจสอบบัญชีอย่างมืออาชีพ
6. ความสัมพันธ์ของ ค่าก่อสร้างกับการต่อเติมบ้าน
แม้ไม่ได้สร้างบ้านใหม่ทั้งหมด การต่อเติมบ้านก็ถือเป็นงานที่ต้องใช้ความรู้เรื่องค่าก่อสร้างไม่น้อย โดยเฉพาะการต่อเติมในพื้นที่จำกัด เช่น ครัวไทย โรงรถ ห้องเก็บของ หรือห้องนอนเพิ่มในแนวตั้ง (ชั้นสอง)
สิ่งที่ต้องเข้าใจคือ “ราคาค่าก่อสร้างต่อเติม” มักจะแพงกว่าการสร้างบ้านใหม่ในสัดส่วนเดียวกัน เนื่องจาก:
- ไม่มี economy of scale: ต่อเติมจำนวนน้อย = ค่าแรง/ต้นทุนต่อหน่วยสูง
- ความยุ่งยากในการทำงาน: พื้นที่แคบ, ต้องระวังของเดิม, ทำงานในบ้านที่มีคนอยู่
- ไม่มีแบบวิศวกรรมชัดเจน: ผู้รับเหมาตีราคาเผื่อความเสี่ยง ทำให้ราคาสูง
- เจ้าของบ้านมักเปลี่ยนแปลงงานระหว่างทำ: ทำให้ควบคุมงบไม่ได้
ตัวอย่างเปรียบเทียบ
รายการ | ก่อสร้างใหม่ | ต่อเติมบ้าน |
---|---|---|
ห้องครัว 15 ตร.ม. | 180,000 บาท (12,000/ตร.ม.) | 225,000 บาท (15,000/ตร.ม.) |
ห้องน้ำ 6 ตร.ม. | 90,000 บาท (15,000/ตร.ม.) | 120,000 บาท (20,000/ตร.ม.) |
จากตารางจะเห็นว่าการต่อเติมบ้านอาจมีค่าก่อสร้างสูงกว่าการสร้างใหม่ประมาณ 20–30% ต่อหน่วย หากไม่มีการวางแผนหรือออกแบบล่วงหน้าให้ชัดเจน
7. ราคาค่า ก่อสร้างบ้าน ปี 2026: แนวโน้มสำคัญที่ต้องรู้
ในปี 2026 ปัจจัยทางเศรษฐกิจและภาวะตลาดก่อสร้างที่ผันผวนได้ส่งผลกระทบต่อราคาค่าก่อสร้างบ้านอย่างชัดเจน ดังนี้:
- ราคาปูนซีเมนต์: คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3–6% ตามต้นทุนพลังงานและค่าแรงในภาคอุตสาหกรรม
- ราคาเหล็กเส้น: ผันผวนสูงจากตลาดโลกและความขัดแย้งด้านโลจิสติกส์ โดยเฉพาะเหล็กนำเข้า
- ค่าแรงช่าง: มีแนวโน้มเพิ่มจากการขาดแคลนแรงงานฝีมือ และค่าแรงขั้นต่ำที่ปรับขึ้น
- ค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน: ค่าน้ำมันที่เพิ่มขึ้นส่งผลต่อต้นทุนขนส่งวัสดุก่อสร้างและเครื่องจักร
- ทุนจีนและต่างชาติเข้ามาแข่งขัน: ส่งผลให้ราคาผู้รับเหมาบางเจ้าดัมพ์ราคาจนทำให้ตลาดสับสน และเกิดความเสี่ยงเรื่องคุณภาพ
โดยเฉลี่ยแล้ว ค่าก่อสร้างบ้านในปี 2026 สำหรับบ้านเดี่ยวมาตรฐาน จะอยู่ที่ประมาณ:
- 14,500–18,000 บาท/ตร.ม. (ไม่รวมงานตกแต่งพิเศษ)
- หรือ 1.45 – 1.8 ล้านบาท สำหรับบ้านขนาด 100 ตร.ม.
ราคานี้ยังไม่รวมค่าที่ดิน, ค่าขออนุญาต, ค่าบริหารโครงการ และภาษีที่เกี่ยวข้อง
8. เลือกผู้รับเหมามีผลต่อค่าก่อสร้างแค่ไหน?
การเลือกผู้รับเหมาถือเป็นตัวแปรสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อ “ค่าก่อสร้างบ้าน” และคุณภาพของงาน โดยสามารถแบ่งได้ตามลักษณะของผู้รับเหมา ดังนี้:
- ผู้รับเหมารายย่อย: เหมาะกับงานเล็ก งบไม่สูง ความยืดหยุ่นดี แต่มีความเสี่ยงเรื่องคุณภาพ ความล่าช้า และการทิ้งงาน
- ผู้รับเหมาท้องถิ่น: รู้จักพื้นที่ แหล่งวัสดุ และแรงงานดี แต่อาจไม่มีมาตรฐานในการจัดการเท่าบริษัทใหญ่
- บริษัทรับเหมาขนาดกลางถึงใหญ่: มีระบบ คุมคุณภาพได้ดี มีวิศวกรประจำ แต่ราคาสูงกว่า และมักไม่รับงานเล็ก
ปัจจัยที่ควรใช้ตัดสินใจเลือกผู้รับเหมา:
ปัจจัย | รายละเอียด |
ราคาเสนอ | เปรียบเทียบกับมาตรฐานตลาด (ไม่ต่ำเกินไป/ไม่สูงเกินไป) |
สัญญา | มีรายละเอียดชัดเจนเรื่องงวดงานและการรับประกัน |
ประสบการณ์ | เคยทำงานประเภทใกล้เคียงหรือไม่ มีผลงานอ้างอิงหรือไม่ |
ทีมงาน | มีวิศวกรประจำ มี foreman มีระบบควบคุมไซต์ |
ความยืดหยุ่น | พร้อมแก้ไข ปรับเปลี่ยน และสื่อสารกับเจ้าของบ้านได้ดี |
ผู้รับเหมาที่มีราคาต่ำมากเกินไป อาจลดคุณภาพวัสดุหรือตัดขั้นตอนสำคัญ ซึ่งส่งผลให้ค่าก่อสร้างบ้านในภาพรวมเพิ่มขึ้นภายหลังจากการแก้งานหรือซ่อมแซม
9. ตัวอย่างการวางแผน ค่าก่อสร้างบ้าน แบบมืออาชีพ
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนว่าค่าก่อสร้างบ้านในปี 2026 มีโครงสร้างต้นทุนอย่างไร ต่อไปนี้คือตัวอย่างการวางแผนค่าก่อสร้างบ้านขนาด 120 ตารางเมตร (บ้านชั้นเดียว) แบบมาตรฐาน โดยแยกเป็นหมวดหมู่:
รายการ | ปริมาณ | ราคาต่อหน่วย | รวม (บาท) | หมายเหตุ |
---|---|---|---|---|
งานเสาเข็มหกเหลี่ยมกลวง | 35 ต้น | 2,600 | 91,000 | ระยะลึกเฉลี่ย 6 เมตร |
งานโครงสร้างพื้น-คาน-เสา | 120 ตร.ม. | 1,900 | 228,000 | รวมวัสดุและแรงงาน |
งานหลังคาเมทัลชีทพร้อมโครง | 120 ตร.ม. | 1,200 | 144,000 | โครงเหล็ก + แผ่นเมทัลชีทเคลือบสี |
งานผนังอิฐมวลเบา + ฉาบ | 150 ตร.ม. | 500 | 90,000 | รวมปูนและค่าแรงฉาบเรียบ |
ระบบไฟฟ้าและประปา | 1 หลัง | 55,000 | 55,000 | รวมตู้ไฟฟ้า, สาย, ท่อน้ำ, สุขภัณฑ์เบื้องต้น |
งานพื้นกระเบื้อง | 100 ตร.ม. | 550 | 55,000 | กระเบื้องเซรามิก 16×16″ |
งานทาสีทั้งภายนอก-ภายใน | 350 ตร.ม. | 200 | 70,000 | สีทาภายนอกกันเชื้อรา + ภายในสีด้าน |
รวมค่าก่อสร้างเบื้องต้น | 733,000 | ยังไม่รวมค่าภาษี/กำไรผู้รับเหมา |
หมายเหตุ: หากคิดรวมค่าควบคุมงาน และ factor F (เช่น x1.25) เพื่อความเสี่ยงและกำไรผู้รับเหมา:
ราคาสุดท้ายโดยประมาณ = 733,000 x 1.25 = 916,250 บาท
การวางแผนลักษณะนี้ช่วยให้เจ้าของบ้านเห็นภาพรวมของโครงสร้างต้นทุน และสามารถตรวจสอบใบเสนอราคาจากผู้รับเหมาได้อย่างมั่นใจว่าอยู่ในระดับที่เหมาะสมหรือไม่
10. สรุป: ราคา ค่าก่อสร้าง บ้านไม่มีสูตรตายตัว
ค่าก่อสร้างบ้านในปี 2026 ไม่ได้ขึ้นอยู่แค่ขนาดบ้านหรือวัสดุที่เลือกเท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับ:
- วิธีคิดราคาที่ใช้ (BOQ, เหมารวม, ตร.ม.)
- ผู้รับเหมาแต่ละเจ้า
- พื้นที่ตั้งโครงการ
- การเปลี่ยนแปลงแบบระหว่างทาง
- สถานการณ์เศรษฐกิจและวัสดุก่อสร้าง
การเข้าใจต้นทุนและวิธีคิดราคาจะช่วยให้เจ้าของบ้านสามารถเจรจาต่อรองกับผู้รับเหมาได้อย่างเป็นธรรม และลดโอกาสที่งบจะบานปลายในภายหลัง บ้านที่ดูราคาถูกในตอนต้น อาจกลายเป็นบ้านที่แพงที่สุดเมื่อรวมค่าซ่อม ค่าต่อเติม และค่าความไม่สบายใจ
หากคุณกำลังจะสร้างบ้าน หรือกำลังวางแผนต่อเติมในปี 2026 บทความนี้คือเครื่องมือสำคัญในการตัดสินใจของคุณ
✅ Call to Action
📌 ต้องการปรึกษาวิศวกรมืออาชีพ วางแผนค่าก่อสร้างบ้านให้คุ้มค่า?
📞 โทร: 081-493-5452
💬 ไลน์: @trich
🌐 ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: https://trich.co.th/build-house-2026/ 🔗 แหล่งข้อมูลเพิ่อหาแบบบ้านสวยๆ และเทคนิคดีดี : บ้านและสวน