การขนส่งคอนกรีต คือหัวใจของระบบก่อสร้างยุคใหม่
การขนส่งคอนกรีต ในระบบงานคอนกรีตยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว อาคารพาณิชย์ หรือโรงงานอุตสาหกรรม การใช้ “รถคอนกรีต” หรือ “รถโม่ปูน” (Concrete Truck Mixer) ถือเป็นเครื่องมือหลักในการขนส่งคอนกรีตจากโรงงานไปยังไซต์งาน
แต่คำถามคือ: รถคอนกรีตทำงานอย่างไร? มีเวลาในการขนส่งจำกัดหรือไม่? และถ้าเลยเวลานั้น คอนกรีตจะเสียหรือเปล่า?
บทความนี้จะพาไปรู้จักเบื้องหลังของระบบขนส่งคอนกรีตในปี 2026 ทั้งทางเทคนิคและในเชิงปฏิบัติจริง โดยอิงจากประสบการณ์ของทีมงานทีริช กรุ๊ป
รถโม่ปูนคืออะไร? ทำงานอย่างไร?
รถโม่ปูน (Concrete Truck Mixer) เป็นรถบรรทุกที่มีถังหมุนทรงกระบอกติดอยู่ด้านหลัง ใช้สำหรับขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จจากโรงงานไปยังไซต์ก่อสร้าง โดยตัวถังหมุนจะทำหน้าที่กวนคอนกรีตไม่ให้แยกชั้นระหว่างน้ำ ปูน หิน และทราย
องค์ประกอบหลักของรถและ การขนส่งคอนกรีต:
- ถังหมุน (Drum): มีปริมาตรฉลี่ย 4-6 คิว
- ระบบกวน (Agitator): ทำให้คอนกรีตไม่แยกตัว
- ระบบควบคุมความเร็ว: หมุนช้าเวลาเดินทาง หมุนเร็วเวลาเท
วิธีทำงาน:
- รับคอนกรีตจากโรงงาน – รถจะจอดที่สถานีผสมเพื่อเติมคอนกรีต
- หมุนถังตลอดทาง – ป้องกันคอนกรีตแยกชั้นและเริ่มแข็งตัว
- เทคอนกรีตที่ไซต์งาน – โดยปล่อยผ่านราง หรือใช้ปั๊มคอนกรีต
เวลาของ การขนส่งคอนกรีต : จำกัดแค่ไหน?
กฎมาตรฐานทั่วไป:
- คอนกรีตต้องเทให้เสร็จภายใน 90–120 นาที นับจากเวลาผสม
- หากเกินกว่านี้ คอนกรีตจะเริ่มเซ็ตตัว เสี่ยงต่อการแตกร้าว และคุณภาพลดลง
หมายเหตุ: ระยะเวลานี้อาจลดลงในสภาพอากาศร้อน เช่น ภาคตะวันออกเฉียงใต้ของไทยในฤดูร้อน (เหลือ ~60 นาที)
ปัจจัยที่มีผลต่อเวลา:
- อุณหภูมิ – ยิ่งร้อน คอนกรีตยิ่งเซ็ตตัวเร็ว
- สัดส่วนน้ำ/ปูน – ค่าที่ต่ำกว่า = เซ็ตตัวเร็วขึ้น
- การจราจร – รถติด = เสี่ยงสูญเสียคอนกรีตทั้งคัน
การจัดการเวลาและระยะทางใน การขนส่งคอนกรีต
1. วางแผนล่วงหน้า:
- นัดเวลารถโม่ให้ตรงกับเวลาช่างพร้อมเทหน้างาน
- เลี่ยงช่วงรถติดหรือพื้นที่จราจรแออัด
2. ตรวจสอบระยะทางจากโรงงาน:
- ปกติไม่ควรเกิน 20–30 กม. จากโรงงาน
- หากไกลกว่านี้ควรใช้ Additive หน่วงเวลาคอนกรีต
3. ใช้เทคโนโลยี GPS:
- รถโม่สมัยใหม่ติด GPS เพื่อติดตามเส้นทางและเวลาแบบ Real-Time
- โรงงานสามารถวางแผนเส้นทางและเวลาเทได้แม่นยำ
การเทคอนกรีตจากรถโม่ – มีขั้นตอนอะไรบ้าง?
- เตรียมรางหรือปั๊มคอนกรีต
- ปรับความเร็วถังหมุน (จากเดินทาง 2–4 รอบ/นาที → เท 12–15 รอบ/นาที)
- เปิดวาล์วปล่อยคอนกรีตตามจุดที่กำหนด
- ช่างควบคุมระดับ ปาดผิว และบ่มทันทีหลังเท
เทคนิคเพิ่มเติม:
- ใช้คน 3–5 คน/คันรถ สำหรับงานพื้น
- อย่าหยุดเทนานเกิน 15 นาที – เสี่ยงคอนกรีตแยกตัว
ตัวอย่างจากงานจริงของทีริช กรุ๊ป
✅ โครงการบ้านจัดสรร 32 หลัง (ลาดกระบัง):
- วางแผนคิวรถ 6 คันต่อวัน
- แต่ละเที่ยวห่างกัน 30 นาที
- ใช้ทีมช่าง 2 ทีม ทำงานคู่ขนาน เทต่อเนื่องแบบไม่หยุด
✅ งานโรงงานใหญ่ (นิคมบางปู):
- ใช้รถโม่ 8 คัน วิ่งระยะ 18 กม. จากโรงงานถึงไซต์
- ทุกคันใช้ GPS และมีผู้ควบคุมคุณภาพจากโรงงานร่วมเทด้วย
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ การขนส่งคอนกรีต
Q: ถ้าเทไม่ทัน 90 นาที จะเป็นอะไร?
A: คอนกรีตจะเริ่มแข็งตัว ทำให้เทยาก ปาดยาก และความแข็งแรงลดลง อาจถูกปฏิเสธโดยวิศวกรคุมงาน
Q: รถโม่เล็กกับใหญ่ต่างกันไหม?
A: รถโม่ขนาดเล็ก (4 คิว) เหมาะกับไซต์แคบในเมือง ส่วนรถใหญ่ (6–9 คิว) ประหยัดต่อเที่ยว แต่ต้องมีพื้นที่จอดและกลับรถเพียงพอ
Q: ทำไมบางทีรถมาช้า?
A: ปัจจัยหลักคือรถติด, รถล่าช้าจากการเทเที่ยวก่อนหน้า, หรือไซต์หน้างานยังไม่พร้อมเท ต้องวางแผนเผื่อเวลาทุกครั้ง
บทสรุป: รถคอนกรีตคือเครื่องจักรที่ต้องใช้ให้ถูกเวลา
แม้คอนกรีตจะมีคุณภาพจากโรงงานดีแค่ไหน หากขนส่งถึงหน้างานแล้วไม่ได้เททันเวลา ก็อาจเสียของทั้งคัน การเข้าใจระบบการขนส่ง เวลา และข้อจำกัดของรถโม่ คือหัวใจของความสำเร็จในงานคอนกรีต
หากคุณต้องการวางแผนเทคอนกรีตอย่างมืออาชีพ พร้อมบริการขนส่งแบบมี GPS และทีมช่างควบคุมคุณภาพ ติดต่อทีริช กรุ๊ป ได้ที่ LINE OA: @trich