เทคโนโลยีกับการเลือกใช้คอนกรีตแต่ละประเภท

การเลือกใช้คอนกรีต

ปัจจัยที่ทำให้เทคโนโลยีมีผลต่อการเลือกใช้คอนกรีต

การพัฒนาของเทคโนโลยีก่อสร้างที่ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน ส่งผลให้เกิดการพัฒนาวัสดุก่อสร้างใหม่ ๆ เข้ามารองรับการใช้งานเทคโนโลยี ที่ถูกพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง และหนึ่งในวัสดุก่อสร้างที่สำคัญ ที่มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน คือ “คอนกรีต” สำหรับ คอนกรีต นั้นมีการพัฒนาทั้งในด้านของสูตรและเทคนิคการผลิตใหม่ ๆ อยู่เสมอ เพื่อปรับปรุงคุณสมบัติและประสิทธิภาพ ทำให้คอนกรีตมีความหลากหลายทั้งในด้านประสิทธิภาพและคุณสมบัติ และประเภทของการใช้งาน

การพัฒนาเทคนิคและสูตรผสมของ คอนกรีต เพื่อรองรับการใช้งานร่วมกับเทคโนโลยีการก่อสร้าง หรือเทคโนโลยีใหม่ในด้านอื่นๆ เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานของคอนกรีตแต่ละประเภท ทำให้ในปัจจุบัน คอนกรีต ที่จำหน่ายอยู่ในตลาดมีให้เลือกหลากหลาย โดยคอนกรีตที่ว่างจำหน่ายในตลาดทั่วไป แบ่งออกเป็น 7 ประเภท คือ

  1. คอนกรีตธรรมดา โดยปกติแล้วคนทั่วไปจะเข้าใจว่าปูนซีเมนต์กับคอนกรีตนั้น คือ วัสดุตัวเดียวกัน แต่จริงๆแล้ว คอนกรีตต่างจากปูนซีเมนต์ เนื่องจาก คอนกรีตเกิดจากการผสมปูนซีเมนต์ร่วมกับวัสดุอื่น เช่น ทราย หิน และน้ำ  ส่วนปูนซีเมนต์ คือ ผงปูนซีเมนต์ที่ไม่มีส่วนผสมอื่น โดยคอนกรีตจะนิยมใช้ในงานโครงสร้างทั่วไป เช่น การหล่อเสา คาน เทพื้น เทฐานราก เทท่อ  หล่อแผ่นพื้นสำเร็จ โดยคอนกรีตที่เราพบเห็นได้บ่อยในไซต์งานก่อสร้าง เป็นการใช้ปูนซีเมนต์เป็นส่วนผสมหลักในการผลิตคอนกรีต
  2. คอนกรีตเสริมเหล็ก  คือ คอนกรีตที่มีการเพิ่มสมรรถภาพการรับน้ำหนัก โดยการนำเหล็กเข้ามาช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับคอนกรีต  โดยเฉพาะการแก้ปัญหาความเปราะ และการรับแรงดึง โดยกลไกสำคัญที่ทำให้เกิดกำลังคือคอนกรีตรับแรงอัดและเหล็กเสริมรับแรงดึง เนื่องจากคอนกรีตมีความแข็งแรงในการรับแรงอัดได้ดี แต่ขาดความยืดหยุ่นไม่สามารถรับแรงดึง ดังนั้นเมื่อรับน้ำหนักจะเกิดการแตกร้าวจากการหดตัวและการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ ทำให้เกิดหน่วยแรงดึงเกินกว่าที่คอนกรีตจะรับได้ การเสริมเหล็กในคอนกรีต ทำให้รับแรงดึงได้ดีขึ้น
  3. คอนกรีตอัดแรง คือ คอนกรีตเสริมเหล็กที่ผ่านกระบวนการอัดแรงก่อนนำไปใช้งาน การอัดแรงจะช่วยเพิ่มแรงอัดให้กับคอนกรีต ซึ่งจะช่วยให้ทำให้สามารถรับแรงกดหรือรับน้ำหนักได้มากขึ้น ในขณะที่ใช้ปริมาณคอนกรีตและเหล็กเส้นลดลง คอนกรีตอัดแรงจะนิยมใช้ในงานโครงสร้างที่ต้องการความแข็งแรงสูงและมีอายุการใช้งานยาวนาน เช่น งานก่อสร้างสะพาน  อาคารสูง
  4. คอนกรีตน้ำหนักเบา คือ คอนกรีตที่มีส่วนผสมหรือวัตถุดิบในการผลิตที่มีน้ำหนักเบา เช่น หินภูเขาไฟ เถ้าลอย คอนกรีตน้ำหนักเบาจะมีน้ำหนักน้อยกว่าคอนกรีตธรรมดาทั่วไป จึงเหมาะกับการใช้ในงานก่อสร้างที่ต้องการลดน้ำหนักโครงสร้าง เช่น งานก่อสร้างบนพื้นดินอ่อน งานก่อสร้างชั้นบนของอาคาร ฯลฯ
  5. คอนกรีตกันน้ำ คือ เป็นคอนกรีตที่ผลิตจากปูนซีเมนต์ที่มีการผสมสารเคมีที่มีคุณสมบัติช่วยในการกันน้ำ แล้วนำมาผสมกับ ทราย หิน และน้ำ สำหรับคอนกรีตกันน้ำจะมีคุณสมบัติทนทานต่อน้ำ เหมาะกับการใช้งานก่อสร้างที่ต้องการป้องกันน้ำซึม เช่น งานก่อสร้างถังเก็บน้ำ งานก่อสร้างสระว่ายน้ำ ฯลฯ
  6. คอนกรีตทนไฟ  คือ คอนกรีตที่ผลิตจากปูนซีเมนต์ที่มีการเติมสารเคมีที่มีคุณสมบัติในการทนไฟ แล้วนำไปผสมกับทราย หิน และน้ำ ซึ่งจะทำให้คอนกรีตทนไฟจะมีคุณสมบัติทนทานต่อความร้อน เหมาะกับงานที่ต้องการป้องกันไฟไหม้ เช่น งานก่อสร้างเตาเผา งานก่อสร้างปล่องไฟ ฯลฯ
  7. คอนกรีตสี คือ คอนกรีตที่มีการเติมสีเข้าไปในเนื้อซีเมนต์ก่อนนำไปผสมกับ ทราย หิน และน้ำ คอนกรีตสี จะมีลักษณะที่แตกต่างจากคอนกรีตทั่วไป เนื่องจากมีสีสันที่หลากหลาย ขึ้นอยู่กับชนิดของเม็ดสีหรือวัสดุที่ใช้ สีสันของคอนกรีตจะคงทน ไม่ซีดจางง่าย  นอกจากนี้ คอนกรีตสีมีความแข็งแรง ทนทานต่อสภาพอากาศ มีอายยุการใช้งานที่ยาวนาน

นอกจากการพัฒนาคอนกรีตให้มีความหลากหลายเพื่อรองรับเทคโนโลยีการก่อสร้างใหม่ๆ แล้ว วัตถุประสงค์หลักของการพัฒนาคอนกรีตให้มีหลากหลายประเภท คือ เพื่อให้เกิดการใช้งานคอนกรีตที่เหมาะสมกับประเภทของงานก่อสร้าง เพราะการเลือกใช้คอนกรีตในการงานก่อสร้างแต่ละประเภทขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น ประเภทของโครงสร้าง สภาพแวดล้อม งบประมาณ ฯลฯ

ปัจจัยทางเทคโนโลยีที่มีผลต่อการเลือกใช้คอนกรีต

การพัฒนาเทคโนโลยีในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับงานก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง มีผลต่อการเลือกใช้คอนกรีตของวิศวกร สถาปนิก และ บริษัทรับเหมาก่อสร้างในปัจจุบัน ดังนี้

  • เทคโนโลยีใหม่ๆ ช่วยให้ผลิตคอนกรีตที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เช่น คอนกรีตผสมแร่ธาตุใหม่ๆทำให้รับแรงกดได้สูงขึ้น ทำให้คอนกรีตมีคุณสมบัติสูงขึ้น หรือคอนกรีตนี้มีคุณสมบัติพิเศษ เช่น แข็งแรง ทนทาน ทนไฟ กันน้ำ ฯลฯ ทำให้ผู้ใช้มีตัวเลือกคอนกรีตที่หลากหลาย และเหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน
  • เทคโนโลยีช่วยให้การออกแบบโครงสร้างดีขึ้น โดยการนำโปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วยออกแบบ (CAD) ช่วยให้ออกแบบโครงสร้างคอนกรีตได้แม่นยำ รวดเร็ว โปรแกรมจำลองโครงสร้าง (Structural Analysis Software) ช่วยวิเคราะห์การรับน้ำหนัก แรงกระทำ ทำให้วิศวกรผู้ออกแบบโครงสร้าง สามารถเลือกใช้คอนกรีตที่มีประสิทธิภาพสูง และความปลอดภัยสูง
  • เทคโนโลยีการผลิตช่วยให้เกิดการพัฒนาคอนกรีตที่มีคุณสมบัติใหม่ๆ  โดยปัจจุบันการผลิตคอนกรีต มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการผลิตเข้าจึงทำให้เกิดการมาพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เช่น การใช้เครื่องผสมคอนกรีตแบบอัตโนมัติ ซึ่งมีระบบควบคุมคุณภาพการผลิตทำให้คอนกรีตที่ได้มีคุณภาพดี สม่ำเสมอ
  • เทคโนโลยีช่วยในการขนส่ง โดยการนำเทคโนโลยีด้านการขนส่งเข้ามาใช้ มีผลต่อการเลือกใช้คอนกรีต  โดยเฉพาะคอนกรีตผสมเสร็จ โดยในปัจจุบันคอนกรีตผสมเสร็จจะใช้รถเทคอนกรีตที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการขนส่ง ช่วยให้การขนส่งและงานก่อสร้างที่รวดเร็วขึ้น และทำให้เทคอนกรีตได้อย่างแม่นยำ แถมยังช่วยลดการสูญเสียระหว่างการขนส่งได้ด้วย
  • เทคโนโลยีการก่อสร้าง  มีผลต่อการเลือกคอนกรีตที่ทันสมัย เช่น การใช้ปั๊มคอนกรีต การใช้แบบหล่อคอนกรีตสำเร็จรูป ทำให้การก่อสร้างรวดเร็ว ปลอดภัย
  • เทคโนโลยีการบ่มคอนกรีต เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่มีผลต่อการเลือกใช้คอนกรีต โดยเฉพาะเทคโนโลยีในการบ่มคอนกรีตที่หลากหลายมากขึ้น เช่น การบ่มด้วยน้ำ การบ่มด้วยไอน้ำ การบ่มด้วยสารเคมี ซึ่งทำให้คอนกรีตมีความแข็งแรง ทนทานและมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน และเหมาะกับงานก่อสร้างที่ต่างกันออกไป
  • เทคโนโลยีการตรวจสอบคุณภาพคอนกรีต สำหรับเครื่องมือตรวจสอบคุณภาพคอนกรีตที่ทันสมัย เช่น เครื่องวัดความแข็งแรงคอนกรีต เครื่องวัดอัลตราซาวนด์ ทำให้มั่นใจได้ว่าคอนกรีตมีคุณภาพตามมาตรฐาน

สรุปแล้ว เทคโนโลยีใหม่ๆ มีผลต่อการเลือกใช้คอนกรีตในหลายๆ ด้าน และยังช่วยให้มีคอนกรีตที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น การออกแบบโครงสร้างที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย การผลิตคอนกรีตที่มีคุณภาพดี การก่อสร้างที่รวดเร็ว ปลอดภัย และการตรวจสอบคุณภาพคอนกรีตที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกใช้คอนกรีตแต่ละประเภท

การเลือกใช้คอนกรีตนั้น หลาย ๆ ครั้งเราต้องคำนึงถึงองค์ประกอบรอบด้าน เพื่อตัดสินใจเลือกใช้คอนกรีตให้เหมาะสมประเภทของงานก่อสร้าง เนื่องจากในปัจจุบัน คอนกรีต แต่ละประเภทมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป และด้วยคุณสมบัติที่หลากหลายนี้เอง จึงทำให้คอนกรีตถูกนำมาใช้สร้างโครงสร้างพื้นฐาน อาคารบ้านเรือน และสิ่งก่อสร้างต่างๆ มากมาย 

แต่คุณสมบัติของคอนกรีตแต่ละประเภทนั้นมีความเหมาะสมกับงานที่แตกต่างกัน ทำให้ผู้ใช้ต้องคำนึงถึงปัจจัยที่แตกต่างกันในการเลือกใช้คอนกรีต โดยปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกใช้คอนกรีต แต่ละประเภทประกอบด้วย 

  1. ประเภทของโครงสร้าง โครงสร้างแต่ละประเภทมีหน้าที่ และการใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนั้น จึงจำเป็นต้องเลือกใช้คอนกรีตที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับการใช้งานเช่น
    • งานก่อสร้างอาคาร  ควรเลือกใช้คอนกรีตเสริมเหล็กหรือคอนกรีตอัดแรง เพราะโครงสร้างอาคารต้องรับแรงจากน้ำหนักบรรทุกและแรงสั่นสะเทือน
    • งานก่อสร้างถนน  ควรเลือกใช้คอนกรีตธรรมดาหรือคอนกรีตเสริมเหล็ก เพราะโครงสร้างถนนต้องรับแรงจากล้อรถ
    • งานก่อสร้างเขื่อน ควรเลือกใช้คอนกรีตอัดแรง หรือคอนกรีตกันน้ำ เพราะโครงสร้างเขื่อนจำเป็นต้องรับแรงดันน้ำสูง 
  1. สภาพแวดล้อม เพราะสภาพแวดล้อม มีผลต่อการเสื่อมสภาพของโครงสร้าง และมีผลต่อการเสื่อมสภาพของคอนกรีต ดังนั้น จึงต้องเลือกใช้คอนกรีตที่มีคุณสมบัติทนทานต่อสภาพแวดล้อม 
  2. ความชื้นในพื้นที่  คือปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจเลือกใช้คอนกรีต ซึ่งในพื้นที่ที่มีความชื้นสูงควรเลือกใช้คอนกรีตกันน้ำ ส่วนพื้นที่ที่มีอากาศร้อน ก็ควรเลือกใช้คอนกรีตทนไฟ แต่หากเป็นพื้นที่ที่มีสารเคมี ก็ควรเลือกใช้คอนกรีตที่ทนต่อกรดหรือด่าง 
  3. งบประมาณ คอนกรีตแต่ละประเภทมีราคาที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเลือกใช้คอนกรีตที่เหมาะสมกับงบประมาณด้วย 
  4. มาตรฐาน คอนกรีตที่ใช้ควรได้รับการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้ เพื่อเป็นการรับประกันคุณภาพของคอนกรีต ที่ดีและเป็นที่ยอมรับ 

สรุปแล้ว ในการเลือกใช้คอนกรีต นั้นนอกจากให้ความสำคัญกับการเลือกใช้คอนกรีตที่มีเหมาะสมกับเทคโนโลยีการก่อสร้างและเทคโนโลยีที่ใช้อยู่ ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการเลือกใช้คอนกรีตแต่ละประเภท คือ การพิจารณาถึงปัจจัยหลายแวดล้อม เพื่อให้ได้คอนกรีตที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับการใช้งาน  โครงสร้างมีความแข็งแรงทนทาน  และคุ้มค่ากับงบประมาณ 

และหากคุณกำลังมองหน้าหรือตัดสินใจจะเลือกว่าควรเลือกใช้คอนกรีต ประเภทใดจึงเหมาะกับงานก่อสร้างของคุณ เราคือ  “ทีริช” ผู้ผลิตและจำหน่ายวัสดุก่อสร้างคุณภาพสูง สำหรับ บริษัท ทีริช คอนสทรัคชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด เกิดจาก จากการรวมตัวของ สถาปนิกและวิศวกรรุ่นใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการ ของลูกค้า ภายหลังจากที่ผู้ก่อตั้งและทีมงาน ได้คร่ำหวอดอยู่ในวงการก่อสร้าง โรงงานผลิตวัสดุก่อสร้าง และธุรกิจค้าส่งวัสุก่อสร้างขนาดใหญ่ ซึ่งรับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า ทางเราจึงได้รวมตัวกันขยายกิจการ สร้างโรงงานผลิตวัสดุก่อสร้าง  เช่น คอนกรีต คอนกรีตผสมเสร็จ ท่อปูน ท่อระบายน้ำฯลฯ เพื่อให้บริการลูกค้าอย่างเต็มรูปแบบสามารถจัดส่งได้ทั่วประเทศไทย

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ คอนกรีต , คอนกรีตผสมเสร็จ  หรือวัสดุก่อสร้าง
โทร : 02-988-5559, 081-549-5666
Line : @TRICH