คอนกรีตกับมาตรฐาน มอก. – ความเข้าใจที่ช่างและวิศวกรควรรู้ ปี 2026

คอนกรีตกับมาตรฐาน มอก.

คอนกรีตกับมาตรฐาน มอก. – ความเข้าใจที่ช่างและวิศวกรควรรู้ ปี 2026

 มอก. สำคัญแค่ไหนในงานคอนกรีต?

คอนกรีตกับมาตรฐาน มอก  นั้นในยุคที่งานก่อสร้างมีการแข่งขันสูง ความน่าเชื่อถือ ความปลอดภัย และมาตรฐานกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจเลือกวัสดุ โดยเฉพาะคอนกรีต ซึ่งเป็นโครงสร้างหลักของทุกอาคาร คำว่า “มอก.” หรือ “มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม” จึงไม่ใช่แค่สติกเกอร์บนถุงปูนหรือรายงานการทดสอบ แต่เป็นเครื่องยืนยันว่า “วัสดุที่ใช้ได้ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำตามกฎหมายไทย”

บทความนี้จะพาไปรู้จักมาตรฐาน มอก. ที่เกี่ยวข้องกับคอนกรีตในประเทศไทยในปี 2026 พร้อมอธิบายว่าทำไมทั้งช่าง ผู้รับเหมา และวิศวกร ควรเข้าใจเรื่องนี้อย่างแท้จริง


มอก. คืออะไร?

“มอก.” ย่อมาจาก มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (Thai Industrial Standard Institute – TISI) โดยมีหน้าที่กำหนดเกณฑ์ขั้นต่ำของผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เพื่อความปลอดภัย คุณภาพ และความสม่ำเสมอ

ในวงการคอนกรีต มอก. ที่เกี่ยวข้องมีทั้งคอนกรีตผสมเสร็จ, ปูนซีเมนต์, หิน ทราย, น้ำ, ไปจนถึงการบ่มและการเทคอนกรีต


มาตรฐาน มอก. ที่เกี่ยวข้องกับคอนกรีต

1. มอก. 213-2560: คอนกรีตผสมเสร็จ

  • กำหนดค่ากำลังอัดขั้นต่ำ เช่น 180, 210, 240 กก/ตร.ซม.
  • กำหนดค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ไม่เกิน 15%
  • ระบุอายุการทดสอบที่ 28 วัน (Cube Test)

2. มอก. 15-2555: ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ทั่วไป

  • ครอบคลุมประเภท 1, 3, และ 5 สำหรับงานโครงสร้าง
  • กำหนดคุณสมบัติเชิงเคมี เช่น ปริมาณ C3S และ C2S

3. มอก. 566-2549: หินสำหรับคอนกรีต

  • กำหนดขนาด (เบอร์), ค่าความสะอาด, ความแข็งแรง

4. มอก. 2413-2562: ทรายละเอียดสำหรับงานก่อสร้าง

  • กำหนดค่าความละเอียดเฉลี่ย (Fineness Modulus)
  • ห้ามมีสิ่งปนเปื้อน เช่น ดินเหนียว เกลือ

5. มอก. 983-2533: การบ่มคอนกรีต

  • ระบุระยะเวลาและวิธีการบ่ม เช่น ราดน้ำ, คลุมเปียก, หรือใช้สารเคลือบ

ทำไมต้องใช้วัสดุที่ผ่าน มอก.?

1. ความปลอดภัยของโครงสร้าง

วัสดุที่ไม่ได้มาตรฐานมีโอกาสสูงที่จะมีปัญหา เช่น กำลังอัดต่ำ ความสม่ำเสมอไม่ดี → เสี่ยงพัง, ร้าว, หรือทรุดตัว

2. ลดความเสี่ยงทางกฎหมายและประกันภัย

หลายบริษัทประกันไม่คุ้มครองอาคารที่ใช้วัสดุไม่มี มอก. โดยเฉพาะงานโครงสร้างหลัก เช่น เสาเข็ม พื้น ฐานราก

3. ความน่าเชื่อถือของแบรนด์ผู้รับเหมา

เจ้าของโครงการจะมั่นใจมากขึ้นเมื่อเห็นว่าใช้วัสดุที่ได้มาตรฐานตามกฎหมาย


จะรู้ได้อย่างไรว่าวัสดุผ่าน มอก. จริง?

  1. ดูใบรับรองจากโรงงานหรือผู้จำหน่าย (Certificate)
  2. ขอผลการทดสอบ Cube Test หรือรายงานคุณภาพ (อย่างน้อย 28 วัน)
  3. ตรวจดูตรา มอก. บนบรรจุภัณฑ์หรือบนรถขนส่งคอนกรีต
  4. สอบถามกับวิศวกรหรือผู้ควบคุมงาน

ตัวอย่างจากงานจริงของทีริช กรุ๊ป

✅ โครงการโรงงานผลิตสินค้าอุตสาหกรรม – สมุทรปราการ

  • ใช้คอนกรีตผสมเสร็จที่มีใบ มอก. พร้อม Cube Test ทุกล็อต
  • ลูกค้าใช้เอกสารประกอบการขอใบอนุญาตโรงงานได้ทันที

✅ โครงการบ้านจัดสรร – ฉะเชิงเทรา

  • ปูนซีเมนต์ทุกถุงมี มอก. 15-2555
  • มีการตรวจสอบและเก็บรายงานทุกล็อตก่อนเทหน้างาน

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ มอก. กับคอนกรีต

Q: คอนกรีตผสมหน้างานมี มอก. ไหม?

A: ไม่มี เพราะ มอก. 213-2560 ครอบคลุมเฉพาะคอนกรีตผสมเสร็จจากโรงงานที่มีระบบควบคุมคุณภาพ

Q: ใช้วัสดุไม่มี มอก. ผิดกฎหมายไหม?

A: ในบางกรณีที่เป็นงานราชการ/งานวิศวกรรมโครงสร้างใหญ่ การไม่ใช้วัสดุ มอก. อาจผิดข้อกำหนด TOR หรือแบบควบคุม

Q: วัสดุ มอก. แพงกว่าจริงหรือไม่?

A: ต่างกันไม่มาก แต่คุ้มค่ากว่าในระยะยาว เพราะลดความเสี่ยงซ่อมแซมและปัญหาคุณภาพ


บทสรุป: มาตรฐาน มอก. คือหลักประกันของงานคอนกรีตที่มั่นคง

คอนกรีตที่ดีไม่ใช่แค่ผสมแล้วเทได้ แต่ต้องพิสูจน์ได้ว่าได้มาตรฐานตามกฎหมายและวิชาชีพ การเลือกใช้วัสดุที่ผ่าน มอก. คือสิ่งที่ช่าง ผู้รับเหมา และวิศวกรต้องใส่ใจอย่างจริงจัง

หากคุณต้องการวัสดุคอนกรีตผสมเสร็จที่ผ่าน มอก. พร้อมผลการทดสอบจากโรงงานคุณภาพ ติดต่อทีริช กรุ๊ป ได้ทันทีผ่าน LINE OA: @trich